วันพฤหัสบดีที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2553


ณ เขื่อนรัชชประภา เขาสก สุราษฏร์ธานี

เขตแนวป่าดิบชื้นอันอุดมสมบูรณ์ของเขาสก เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าและนกหายากนานาชนิด
แหล่งท่องเที่ยวของเขาสกแบ่งเป็น2พื้นที่ คือการเดินป่า ใครที่รักการผญจภัย การเดินป่าเขาสกก็ท้าทายไม่ใช่เล่น
ย่างเท้าก้าวเดินลัดเลาะไปตามป่าเขาเพื่อชม แหล่งน้ำตกธรรมชาติ แต่ไอไลทืที่สำคัญของที่นี่
คือการชมดอกบัวผุด ดอกไม้หายากเฉพาะถิ่น ที่ว่ากันว่า มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ดอกบานมีขนาด 70-80ซม.
อยู่ในแนวป่าลึกของเขาสก


อีกกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด คือการล่องเรือชมวิวทิวทัศน์เหนือเขื่อนรัชชประภาหรือเขื่อนเชี่ยวหลาน
จากภูมิประเทสที่เป็นเขาหินปูน และล้อมรอบด้วยผืนน้ำกว้างใหญ่ในเขื่อน ซึ่งมีน้ำสีเขียวมรกตดูสวยงามแปลกตา
จนได้รับฉายาว่า
ของเขื่อนยังมีแหลง่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ



และถ้ำปะการัง ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกจุดหนึ่ง และสามารถมองเห็นอ่างเก็บน้ำได้ทั่วทั้งหมด
ล่องเรือชมเขื่อน ในบรรยากาศกุ้ยหลินเมืองไทย"กุ้ยหลินเมืองไทย" ในวันที่โชคดีอาจจะได้เห็นค่างแว่นและนกเงือก นอกจากนี้รอบๆพื้นที่เขื่อนรัชชประภา หรือเขื่อนเชี่ยวหลาน อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ เขาสก จังหวัดสุราษฏร์ธานี

วันอังคารที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ภาคใต้


ดำน้ำชมแนวประการัง                                    
ด้านตะวันตกของเกาะมีหาดทรายขาวนวลสลับกับโขดหินที่เรียงรายอยู่รอบเกาะ
มีบ้านพักอุทยานฯสามารถกางเต๊นนอนพักแรมบนผืนทรายได้
บริเวณหัวแหลมของเกาะมีแนวปะการังน้ำตื้นที่มีชื่อเสียงและอุดมสมบูรณ์ที่สุดของหมู่เกาะชุมพร ด้านตะวันตกของเกาะเป็นผาสูง
ปะการังส่วนใหญ่ของที่นี้จะเป็น ปะการังก้อนและปะการังสมองขนาดใหญ่
มีปลาอยู่หลายชนิด อาทิเช่น
ปลาการ์ตูน ปลานกขุนทอง ปลาปักเป้า ฯลฯ ส่วนใหญ่เป็นปลาขนาดเล็กในแนวปะการัง ที่นี้มีปะการังเขากวาง ดอกไม้ทะเลแสนสวย หอยมือเสือ รวมถึงสัตว์แปลกๆ อย่าง "ปูไก่" ที่ชอบปีนป่ายต้นไม้และส่งเสียงร้องเจี๊ยบๆเหมือนลูกไก่
ส่วนใครไม่ถนัดเรื่องดำน้ำละก็สามารถเดินชมชายหาด ชมพระอาทิตย์ตกดิน หรือ เลือกที่จะว่ายน้ำเล่นริมทะเลก็สนุกไม่แพ้กัน
เกาะมาตราอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ6.5กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางจากท่าเรือท่ายางประมาณ1ชัวโมง
         เดินเล่นบนชายหาดทรายขาว ปลาเขียวพระอินทร์ ปลาสลิดหินขนาดเล็ก ประการังน้ำตื้น เป็นหนึ่งมนต์เสน่ห์ที่ทำให้ผู้รักการดำน้ำต้องเดินทางมาที่นี้ เกาะมาตรา คือสวรรค์ของนักดำน้ำ เกาะมาตรา หรือเกาะมัตรา หรือเกาะตังกวย อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ใหล้กับหาดทรายรี ใช้เวลาเดินทางจากท่าเรือท่ายางประมาณ1ชั่วโมง

วันพุธที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ท่องเที่ยว4ภาค

ท่องเที่ยว 4 ภาค




สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ทุกท่านที่ได้เข้ามาเยี่ยมเยียน หลังจากที่เราได้แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในคราวที่แล้ว โดยพาทุกท่านขึ้นไปแอ่วเหนือที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน แห่งดินแดนปางอุ๋งซึ่งเป็นสถานที่โปรดปรานของใครๆ หลายคนมาแล้ว หวังว่าทุกท่านคงมีทางเลือกในการหาสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนในวันสบายให้ชุ่มช่ำอุรา ลันลัลลากันนะค่ะ



ทริปนี้เราจะพาทุกท่านไปยังดินแดนที่ราบสูงแห่งภาคอีสาน จะเป็นที่ไหนไม่ได้นอกจากจังหวัดนครราชสีมาหรือโคราช เราจะพาท่านไปชมอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ถึง 4 จังหวัด ด้วยกัน คือ สระบุรี นครนายก นครราชสีมา และปราจีนบุรี ซึ่งห่างจากกรุงเทพไม่มากนัก เพียง 3 ชั่วโมงเขาใหญ่ในส่วนหนึ่งของดงพญาไฟหรือดงพญาเย็นในอดีต เป็นภูมิประเทศที่มีภูเขาสลับซับซ้อนหลายลูก และเป็นป่าที่มีสภาพอุดมสมบูรณ์โดยส่วนใหญ่แล้วเป็นป่าดงดิบชื้น และมีพืชพรรณที่หลากหลายและมีน้ำตกมากกว่า 20 แห่ง เขาใหญ่มีที่ท่องเที่ยว มากมาย ทั้งการเดินป่าและเที่ยวชมสัตว์ไม้นานาชนิด หรือว่าท่านจะหาที่พักผ่อนหย่อนใจ เพราะนอกจากอากาศจะดีแล้ว บรรยากาศหน้าหนาวของที่นี่ยังโรแมนติกซะด้วย



สถานที่ท่องเที่ยว ที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีด้วยกันหลายแห่ง คือ...



"ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่" ตั้งอยู่กิโลเมตรที่ 24 ถนนธนะรัชต์ เส้นทางขึ้นเขาใหญ่ด้านอำเภอปากช่อง นักท่องเที่ยวที่ผ่านเข้าอุทยานแห่งชาติ ประชาชนมักแวะไปกราบไหว้ ขอโชคลาภและขอพรอยู่เสมอ



เสมอ



"น้ำตกเหวนรก" เป็นน้ำตกขนาดใหญ่และสูงที่สุด อยู่ทางทิศใต้ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีทั้งหมด 3 ชั้น รวมความสูงไม่ต่ำกว่า 150 เมตร เป็นสายน้ำที่ไหลทะลักไปสู่หุบเหวเบื้องล่าง ฤดูฝนน้ำจะไหลแรงมากจนดูน่ากลัว



"น้ำตกกองแก้ว" เป็นน้ำตกเตี้ยๆ เกิดจากห้วยลำตะคอง ในฤดูฝนจะดูสวยงามมาก เหมาะสำหรับการเล่นน้ำ



"น้ำตกผากล้วยไม้" เป็นน้ำตกขนาดกลางที่อยู่ในห้วยลำตะคองเช่นเดียวกัน มีลักษณะเป็นหน้าผาลดหลั่นกันลงมา สูงประมาณ 10 เมตร สามารถเข้าถึงได้โดยทางรถยนต์และทางเดินเท้า ทางเดินเริ่มจากจุดกางเต็นท์ผากล้วยไม้ไปประมาณ 1.2 กิโลเมตร โดยเดินเลียบตามห้วยลำตะคองเต็มไปด้วยพันธุ์ไม้ใหญ่ร่มครึ้ม ยังมีโอกาสพบนกหลากหลายชนิด

"น้ำตกเหวสุวัต" ถือเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงมาก อยู่สุดถนนธนะรัชต์ น้ำตกนี้มีลักษณะเป็นสายน้ำ ตกลงมาจากหน้าผาสูงประมาณ 20 เมตรเศษ บริเวณด้านล่างของน้ำตกเป็นแอ่งน้ำและลำธาร เหมาะที่จะลงเล่นน้ำ แต่ในช่วงฤดูฝนนั้นจะมีน้ำมากและไหลแรง ควรใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่ง เพื่อความปลอดภัยค่ะ



"จุดชมทิวทัศน์เขาเขียว" ผาเดียวดาย เป็นจุดชมวิวที่สวยงาม สามารถมองเห็นภูเขาร่มขวางอยู่เป็นแนวยาว และทิวทัศน์ที่สวยงามด้านจังหวัดปราจีนบุรี ตอนเช้าตรู่ก็จะเห็นพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า เป็นดวงกลมสีแดงเหนือสันเขาร่มที่



อย่างไรก็ตาม อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ถือเป็นแหล่งที่มีสัตว์ป่าชุกชุม บางทีขณะกำลังขับรถยนต์ไปตามถนน จะสามารถเห็นสัตว์ป่าเดินผ่านหรือออกหากินตามทุ่งหญ้า หรืออาจเห็นโขลงช้างออกหากินริมถนน ลูกช้างตัวเล็กๆ น่ารัก เดินยึกยักๆ ก็ดูเพลินตาไม่เบา สัตว์ป่าที่สามารถพบได้บ่อยๆ ตามโอกาสอำนวย ได้แก่ เก้ง กวาง ตามทุ่งหญ้าทั่วๆ ไป นอกจากนี้ยังพบ เสือโคร่ง กระทิง เลียงผา หมี เม่น ชะนี พญากระรอก หมาไม้ ชะมด อีเห็น กระต่ายป่า นกชนิดต่างๆ จำนวน 250 ชนิด จากจำนวนไม่น้อยกว่า 340 ชนิด นกที่น่าสนใจและพบเห็นได้บ่อย ได้แก่ นกเงือกที่บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของผื่นป่า นกขุนทอง นกขุนแผน นกพญาไฟ นกแต้วแล้ว นกโพระดก นกแซงแซว นกเขา นกกระปูด ไก่ฟ้า และนกกินแมลงชนิดต่างๆ แถมยังมีแมลงแปลกๆ อีกเพียบกว่า 5,000 ชนิด



สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักค้างคืน



ที่นี่เขาก็มีสถานที่ให้กางเต็นท์ 2 จุดคือ ผากล้วยไม้และลำตะคอง และยังมีเครื่องนอนและอุปกรณ์พักแรมให้เช่าด้วย ส่วนค่ายพักแรมมี 3 จุด คือ ค่ายกองแก้ว ค่ายเยาวชนและค่ายสุรัสวดี เหมาะสำหรับกลุ่มใหญ่ที่เข้ามาทำกิจกรรมเกี่ยวกับการอนุรักษ์ ขณะที่บ้านพักมี 2 จุดคือ บริเวณที่ทำการอุทยานฯและบริเวณบ้านธนะรัชต์



สอบถามรายละเอียดและจองบ้านพักได้ที่ งานบ้านพักอุทยานแห่งชาติ โทร. 02-562-0760-2 หรือ http://www.dnp.go.th/ ด่านตรวจศาลเจ้าพ่อ (จองบ้านพัก) โทร. 0-4429-7406, 0-4429-7426 และติดต่อที่พักกางเต็นท์บริเวณผากล้วยไม้ โทร. 0-1282-8594 จุดพักลำตะคอง โทร. 0-9285-9470



การเดินทาง



หากโดยสารรถประจำทางจากกรุงเทพฯ ให้ลงที่อำเภอปากช่อง แล้วต่อรถสองแถวขึ้นเขาใหญ่บริเวณหน้าตลาดปากช่อง รถจะไปถึงตรงแค่ด่านเก็บเงิน ค่ารถ 15 บาท มีบริการระหว่างเวลา 6.00 - 17.00 น. จากนั้นต้องโบกรถขึ้นไปยังที่ทำการฯ หรือจะเช่ารถจากปากช่องเลยก็ได้ (เดินทางก็ง่ายแถมยังสะดวกสบายอีกด้วย)





โดยรถยนต์ ใช้เวลาประมาณ 3 ชม. โดยเริ่มจาก



1. ถนนพหลโยธินผ่าน รังสิต-สระบุรี เลี้ยวขวาอีกครั้งหนึ่งตรงทางแยกก่อนถึง อ.ปากช่อง บริเวณ กมที่ 58 เข้าสู่ถนนธนะรัตน์ผ่านด่านเขาใหญ่มุ่งตรงสู่ที่ทำการอุทยานฯ ซึ่งเป็นทางขึ้นเขารวมทั้งสิ้นประมาณ 190 กม.



2. ถนนพหลโยธินเลี้ยวขวาบริเวณรังสิตเข้าทางหลวงหมายเลข 305 เข้านครนายกแล้วเปลี่ยนไปใช้ทางหลวงหมายเลข 33 ถึงสี่แยกเนินหอม (วงเวียนนเรศวร) เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนปราจีนเขาใหญ่



ทั้งนี้เส้นทางที่สองค่อนข้างชันเหมาะที่จะใช้เป็นทางลงมากกว่าค่ะ

... เชิญมาสูดอากาศบริสุทธิ์ ท่ามกลางธรรมชาติอันแสนสุข โดยเที่ยวเมืองไทย ไปเขาใหญ่ ในวันที่อากาศเย็นๆ นะคะ...



สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โทร. 0-2562-0760 หรือที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ปณ.9 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 30130

วันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2553

สวิสเซอร์แลนด์เมืองไทย

ท่องเที่ยว 4 ภาค
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม นี่ก็เริ่มเข้าสู่ฤดูปลายฝนต้นหนาวแล้วค่ะน่ะซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะอย่างยิ่งในการที่เราจะท่องเที่ยวไปให้สบายอุรา ลันลัลลาในช่วงวันหยุดหรือวันว่างของเพื่อนๆ หลายคน เราจึงอยากจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่แจ่มๆ โดนๆ ในแต่ละภาคเพื่อเป็นทางเลือกหนึ่งของใครหลายคนที่กำลังตัดสินใจในการหาที่ท่องเที่ยว เพื่อมาพักผ่อนและมาดื่มด่ำกับธรรมชาติในเมืองไทยที่หาไม่ได้ในต่างประเทศ แถมยังสะดวกในการเดินทางและประหยัดตังค์ในกระเป๋าได้เป็นอย่างดีค่ะ
 สถานที่แรกที่อยากแนะนำให้เพื่อนๆ ขึ้นเหนือค่ะไปที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนค่ะ  เราจะแนะนำให้ท่านรู้จักกับ “ปางอุ๋ง”   มีไอหมอกลอยเหนือทะเลสาป กับบรรยากาศอันหนาวเหน็บในยามเช้า ทำให้ ปางอุ๋ง กลายเป็นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวมาแรง ยอดฮิต สุดแสนโรแมนติกติดอันดับต้นๆของแม่ฮ่องสอน จนได้รับขนานนามว่าเป็น "สวิตเซอร์แลนด์แห่งเมืองไทย" ยิ่งยามพระอาทิตย์ขึ้นจะสะท้อนผืนน้ำผ่านทิวสนและไอหมอกบางๆ ยิ่งเป็นภาพที่สร้างความประทับยากจะลืมเลือน แม้ในกระทั่งเวลาที่หมอกเลือนลางหายไปก็ยังคงความงาม  ต่อมาก็จะลงมาภาคอีสานก็จะไปกันที่จังหวัดนครราชสีมา ณ “อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่” พบกับธรรมชาติที่สัมผัสได้จริงสีเขียว  ชอุ่มของพืชพรรณนานาชนิด  หลายคนอาจคิดว่าการมาเที่ยวป่าคงไม่มีอะไรไปมากกว่าการดูต้นไม้ใบหญ้า แต่ถ้าลองได้สังเกตคุณก็จะได้พบกับ ต้นไม้บางชนิดที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน ความสดใสของพืชพันธุ์ต่างๆ เมื่อต้องฝน ดอกไม้ป่านานาชนิด เสียงนกร้องก้องไพร สายน้ำตกที่หลั่งไหลกระแทกก้อนหิน เนื่องจากเขาใหญ่เป็นป่าดงดิบชื้นส่วนใหญ่ จึงมีพืชพรรณอุดมสมบูรณ์ตลอดปีมาต่อกันที่ภาคกลางไปกันที่ “ตลาดน้ำอัมพวา" เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของ จังหวัดสมุทรสงคราม บรรยากาศของที่นี่จะร่มรื่นไปด้วยสวนผสมริมน้ำ  ตกเย็นเป็นไฮไลต์ของการเยือนอัมพวา นั่นคือ การชมและชิมอาหารหลากหลายที่ "ตลาดน้ำอัมพวา" เป็นตลาดริมคลอง ตั้งอยู่ใกล้วัดอัมพวันเจติยาราม ประชาชนสามารถเดินเที่ยวชมตลาดหาซื้ออาหารรับประทานและเช่าเรือไปเที่ยวชมดูหิงห้อยในยามค่ำคืนได้  สถานที่สุดท้ายที่จะพามาล่องใต้ค่ะ ไปที่จังหวัดสตูลที่ “เกาะหลีเป๊ะ”  เป็นเกาะที่อุดมไปด้วย ท้องทะเลที่ใสสะอาด เกาะที่เงียบสงบ และน้ำที่ตื้นเขิน โดย เกาะหลีเป๊ะเกาะแห่งนี้มำไฮไลท์ที่อยากจะนำเสนอก็คือ “พลายน้ำ” พลายน้ำก็คือฟอสฟรอรัส  หรือสารเรืองแสงนั่นเอง  ในคืนเดือนมืดจะเห็นได้ชัดมากเพราะจะเรืองแสงได้ดี  แต่หากเดือนหงายหรือพระจันทร์เต็มดวง  จะไม่ค่อยเห็นสักเท่าไหร่    หากที่ไหนสมบูรณ์มากจะมีฟอสฟรอรัสอยู่ นี่คือ 4 สถานที่มหัศจรรย์ที่เราจะพาคุณไปให้รู้จักค่ะ

 สถานที่แรกที่อยากแนะนำให้เพื่อนๆ ขึ้นเหนือค่ะไปที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนค่ะ  เราจะแนะนำให้ท่านรู้จักกับ “ปางอุ๋ง” เป็นอีกสถานที่หนึ่งยอดนิยมของบรรดานักท่องเที่ยวที่ได้มาเยือนจังหวัดแม่ฮ่องสอนก็คือ”โครงการพระราชดำริปางตอง 2” ที่นี่จัดเป็นโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระราชินีนาถ ทรงมีพระราชดำริให้รวบรวมราษฎรกลุ่มน้อยที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ เพื่อจะได้มีการพัฒนาความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้น ส่งเสริมอาชีพปลูกป่า สร้างอ่างเก็บน้ำ และเพื่อฟื้นฟูอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้สมบูรณ์ โดยส่วนใหญ่แล้วเราจะเรียกที่นี่กันว่า “ปางอุ๋ง” หรือจะเรียกชื่อว่า “บ้านรวมไทย”
ปางอุ๋ง  อยู่ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนประมาณ 44 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนเขา บริเวณรอบอ่างเก็บจะเรียงรายไปด้วยทิวสนต้นสูงใหญ่ สิ่งที่ทำให้อ่างเก็บน้ำแห่งนี้เป็นที่นิยมและดึงดูดนักท่องเที่ยวต้องมาให้ได้อย่างน้อยสักครั้งก็คือ ภาพของไอหมอกที่ลอยสูงอยู่เหนือผิวน้ำที่นิ่งสงบในยามเช้า ดวงอาทิตย์สีสดที่เริ่มเคลื่อนตัวขึ้นมาทักทายในเช้าวันใหม่และล่ำลาในยามเย็น แนวทิวสนที่ยืนรอรับแสงแดด และยังรวมถึงอากาศเย็นที่มาพร้อมกับสายลมแห่งฤดูหนาว
2. บ้านพักของโครงการพระราชดำริ ปางตอง 2 (ปางอุ๋ง)
“โครงการพระราชดำริ ปางตอง 2 (ปางอุ๋ง)    (ส่วนป่าไม้)     มีบ้านพักจำนวน 5 หลัง และพื้นที่กางเต็นท์ จำนวน  50  เต็นท์ ต่อวัน ไว้บริการให้แก่หน่วยงานราชการ-รัฐวิสาหกิจ สถาบันการศึกษา สมาคม-ชมรม และนักท่องเที่ยว เข้าไปพักแรมและเยี่ยมชม   เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดแม่ฮ่องสอน 
์ ติดต่อเจ้าหน้าที่โครงการฯ  หมายเลขโทรศัพท์  082-898 2536
3. บ้านพักลุงปาละ ห่างจากปางอุ๋งประมาณ 150 เมตร โทร 053-692-144 ,โทร 08-6916-8967 และ 08-4141-2636
การเดินทางไปปางอุ๋ง
จากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนเส้นทางไปปางอุ๋งจะเป็นเส้นเดียวกับที่จะเดินทางไปปาย สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปโดยรถประจำทางสามารถไปขึ้นรถสองแถวสีเหลืองได้ที่ตลาดสายหยุดมรตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ซึ่งจะมีให้บริการวันละ 2 เที่ยวคือ 9.00 น. และ 15.00 น. ถ้าลงจากปางอุ๋งมาตัวเมืองแม่ฮ่องสอนจะมีเวลา 5.30 น. และ 11.00 น. ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง หรืออาจจะต่อรองราคาคิดเหมาเลยก็ได้
กรุงเทพ-ฮอด
 จากกรุงเทพ เดินทางผ่าน อยุธยา-นครสวรรค์-ตาก ถึง อ.ลี้ แยกซ้ายเข้าอำเภอ เดินทางต่อไปยังเส้นลี้-บ้านโฮ่ง ก่อนถึง อ.บ้านโฮ่ง สังเกตุป้ายนัดนึงนะครับ จะมีป้ายบอกให้เลี้ยวซ้ายไปดอยเต่า ให้เลี้ยวซ้ายจากนั้นก็วิ่งตามป้ายจนถึงฮอด ถึงสุดทางซึ่งจะเป็นสามแยกรูปตัว T ให้เลี้ยวซ้ายไปอีกประมาณ 200 เมตร จะเป็นวงเวียน เลี้ยวซ้ายที่วงเวียนก็จะเข้าสู่เส้นทาง ฮอด - แม่ฮ่องสอน ครับ
ฮอด-แม่ฮ่องสอน
จากฮอด วิ่งไปเรื่อย ๆ ตามทางสายหลัก ผ่าน อ.แม่สะเรียง, อ.แม่ลาน้อย, อ.ขุนยวม ก็จะถึงแม่ฮ่องสอนครับ เส้นทางจาก ฮอด-แม่ฮ่องสอน คดเคี้ยวขึ้นเขา 1,864 โค้ง ใครไม่ชำนาญการขับรถ ขึ้น-ลง เขา ผมไม่แนะนำให้ขับรถไป แต่หากต้องการขับไปจริง ๆ ก็เผื่อเวลาสำหรับการเดินทางอีก 20% และขับให้ช้าสักนิดเพื่อความปลอดภัยครับ
แม่ฮ่องสอน-ปางอุ๋ง
ออกจากเมืองแม่ฮ่องสอนไปตามเส้นทาง แม่ฮ่องสอน-ปางมะผ้า-ปาย ไปสัก 10 กม. จะมีป้ายบอกว่าเลี้ยวซ้ายไป บ้านรวมไทย น้ำตกผาเสื่อ พระตำหนักปางตอง ซึ่งอยู่บนเส้นทางเดียวกัน เดินทางขึ้นไปเรื่อย ๆ ผ่านน้ำตกผาเสื่อ ผ่านพระตำหนักปางตอง สังเกตทางแยกซ้ายมือ จะมีป้ายเล็ก ๆ เขียนบอกว่าไป "บ้านรวมไทย" ให้เลี้ยวซ้ายตรงไปเรื่อย ๆ จนถึงหมู่บ้านห้วยมะเขือส้ม ซึ่งจะมีทางแยกรูปตัว T เลี้ยวขวาตรงแยก ตรงไปเรื่อย ๆ ก็จะถึง บ้านรวมไทย หรือ ปางอุ๋ง ครับ เส้นทางจากแม่ฮ่องสอน -ปางอุ๋ง นอกจากเส้นทางจะคดโค้ง ขึ้นเขาชันจัด ๆ และถนนแคบมาก ๆ แล้ว ยังมีหมอกเป็นอุปสรรคอีกต่างหาก หากไม่ชำนาญเส้นทางควรเดินทางในช่วงกลางวันจะปลอดภัยกว่ามากครับ
กรณีที่ไม่ได้ขับรถไปเอง
นั่งรถทัวร์ กทม.-แม่ฮ่องสอน ให้ไปที่หน้าตลาดสายหยุด ถามหาคิวรถปางอุ๋ง จะมีรถสองแถว
ประจำทางขึ้นไปยังปางอุ๋ง (บ้านรวมไทย) เป็นสาย แม่ฮ่องสอน-ห้วยมะเขือส้ม
 เที่ยวไป 09.00 น. และ 14.00 น.
 เที่ยวกลับ 06.00 น. และ 11.00 น.
หรืออาจจะเหมารถจากหน้าตลาดสายหยุดไปเลยก็ได้อัตรค่าโดยสารประมาณ 600 บาท จากนั้นก็ไปที่หน้าตลาด ถามหาคิวรถปางอุ๋ง