วันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2553

สวิสเซอร์แลนด์เมืองไทย

ท่องเที่ยว 4 ภาค
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม นี่ก็เริ่มเข้าสู่ฤดูปลายฝนต้นหนาวแล้วค่ะน่ะซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะอย่างยิ่งในการที่เราจะท่องเที่ยวไปให้สบายอุรา ลันลัลลาในช่วงวันหยุดหรือวันว่างของเพื่อนๆ หลายคน เราจึงอยากจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่แจ่มๆ โดนๆ ในแต่ละภาคเพื่อเป็นทางเลือกหนึ่งของใครหลายคนที่กำลังตัดสินใจในการหาที่ท่องเที่ยว เพื่อมาพักผ่อนและมาดื่มด่ำกับธรรมชาติในเมืองไทยที่หาไม่ได้ในต่างประเทศ แถมยังสะดวกในการเดินทางและประหยัดตังค์ในกระเป๋าได้เป็นอย่างดีค่ะ
 สถานที่แรกที่อยากแนะนำให้เพื่อนๆ ขึ้นเหนือค่ะไปที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนค่ะ  เราจะแนะนำให้ท่านรู้จักกับ “ปางอุ๋ง”   มีไอหมอกลอยเหนือทะเลสาป กับบรรยากาศอันหนาวเหน็บในยามเช้า ทำให้ ปางอุ๋ง กลายเป็นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวมาแรง ยอดฮิต สุดแสนโรแมนติกติดอันดับต้นๆของแม่ฮ่องสอน จนได้รับขนานนามว่าเป็น "สวิตเซอร์แลนด์แห่งเมืองไทย" ยิ่งยามพระอาทิตย์ขึ้นจะสะท้อนผืนน้ำผ่านทิวสนและไอหมอกบางๆ ยิ่งเป็นภาพที่สร้างความประทับยากจะลืมเลือน แม้ในกระทั่งเวลาที่หมอกเลือนลางหายไปก็ยังคงความงาม  ต่อมาก็จะลงมาภาคอีสานก็จะไปกันที่จังหวัดนครราชสีมา ณ “อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่” พบกับธรรมชาติที่สัมผัสได้จริงสีเขียว  ชอุ่มของพืชพรรณนานาชนิด  หลายคนอาจคิดว่าการมาเที่ยวป่าคงไม่มีอะไรไปมากกว่าการดูต้นไม้ใบหญ้า แต่ถ้าลองได้สังเกตคุณก็จะได้พบกับ ต้นไม้บางชนิดที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน ความสดใสของพืชพันธุ์ต่างๆ เมื่อต้องฝน ดอกไม้ป่านานาชนิด เสียงนกร้องก้องไพร สายน้ำตกที่หลั่งไหลกระแทกก้อนหิน เนื่องจากเขาใหญ่เป็นป่าดงดิบชื้นส่วนใหญ่ จึงมีพืชพรรณอุดมสมบูรณ์ตลอดปีมาต่อกันที่ภาคกลางไปกันที่ “ตลาดน้ำอัมพวา" เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของ จังหวัดสมุทรสงคราม บรรยากาศของที่นี่จะร่มรื่นไปด้วยสวนผสมริมน้ำ  ตกเย็นเป็นไฮไลต์ของการเยือนอัมพวา นั่นคือ การชมและชิมอาหารหลากหลายที่ "ตลาดน้ำอัมพวา" เป็นตลาดริมคลอง ตั้งอยู่ใกล้วัดอัมพวันเจติยาราม ประชาชนสามารถเดินเที่ยวชมตลาดหาซื้ออาหารรับประทานและเช่าเรือไปเที่ยวชมดูหิงห้อยในยามค่ำคืนได้  สถานที่สุดท้ายที่จะพามาล่องใต้ค่ะ ไปที่จังหวัดสตูลที่ “เกาะหลีเป๊ะ”  เป็นเกาะที่อุดมไปด้วย ท้องทะเลที่ใสสะอาด เกาะที่เงียบสงบ และน้ำที่ตื้นเขิน โดย เกาะหลีเป๊ะเกาะแห่งนี้มำไฮไลท์ที่อยากจะนำเสนอก็คือ “พลายน้ำ” พลายน้ำก็คือฟอสฟรอรัส  หรือสารเรืองแสงนั่นเอง  ในคืนเดือนมืดจะเห็นได้ชัดมากเพราะจะเรืองแสงได้ดี  แต่หากเดือนหงายหรือพระจันทร์เต็มดวง  จะไม่ค่อยเห็นสักเท่าไหร่    หากที่ไหนสมบูรณ์มากจะมีฟอสฟรอรัสอยู่ นี่คือ 4 สถานที่มหัศจรรย์ที่เราจะพาคุณไปให้รู้จักค่ะ

 สถานที่แรกที่อยากแนะนำให้เพื่อนๆ ขึ้นเหนือค่ะไปที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนค่ะ  เราจะแนะนำให้ท่านรู้จักกับ “ปางอุ๋ง” เป็นอีกสถานที่หนึ่งยอดนิยมของบรรดานักท่องเที่ยวที่ได้มาเยือนจังหวัดแม่ฮ่องสอนก็คือ”โครงการพระราชดำริปางตอง 2” ที่นี่จัดเป็นโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระราชินีนาถ ทรงมีพระราชดำริให้รวบรวมราษฎรกลุ่มน้อยที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ เพื่อจะได้มีการพัฒนาความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้น ส่งเสริมอาชีพปลูกป่า สร้างอ่างเก็บน้ำ และเพื่อฟื้นฟูอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้สมบูรณ์ โดยส่วนใหญ่แล้วเราจะเรียกที่นี่กันว่า “ปางอุ๋ง” หรือจะเรียกชื่อว่า “บ้านรวมไทย”
ปางอุ๋ง  อยู่ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนประมาณ 44 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนเขา บริเวณรอบอ่างเก็บจะเรียงรายไปด้วยทิวสนต้นสูงใหญ่ สิ่งที่ทำให้อ่างเก็บน้ำแห่งนี้เป็นที่นิยมและดึงดูดนักท่องเที่ยวต้องมาให้ได้อย่างน้อยสักครั้งก็คือ ภาพของไอหมอกที่ลอยสูงอยู่เหนือผิวน้ำที่นิ่งสงบในยามเช้า ดวงอาทิตย์สีสดที่เริ่มเคลื่อนตัวขึ้นมาทักทายในเช้าวันใหม่และล่ำลาในยามเย็น แนวทิวสนที่ยืนรอรับแสงแดด และยังรวมถึงอากาศเย็นที่มาพร้อมกับสายลมแห่งฤดูหนาว
2. บ้านพักของโครงการพระราชดำริ ปางตอง 2 (ปางอุ๋ง)
“โครงการพระราชดำริ ปางตอง 2 (ปางอุ๋ง)    (ส่วนป่าไม้)     มีบ้านพักจำนวน 5 หลัง และพื้นที่กางเต็นท์ จำนวน  50  เต็นท์ ต่อวัน ไว้บริการให้แก่หน่วยงานราชการ-รัฐวิสาหกิจ สถาบันการศึกษา สมาคม-ชมรม และนักท่องเที่ยว เข้าไปพักแรมและเยี่ยมชม   เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดแม่ฮ่องสอน 
์ ติดต่อเจ้าหน้าที่โครงการฯ  หมายเลขโทรศัพท์  082-898 2536
3. บ้านพักลุงปาละ ห่างจากปางอุ๋งประมาณ 150 เมตร โทร 053-692-144 ,โทร 08-6916-8967 และ 08-4141-2636
การเดินทางไปปางอุ๋ง
จากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนเส้นทางไปปางอุ๋งจะเป็นเส้นเดียวกับที่จะเดินทางไปปาย สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปโดยรถประจำทางสามารถไปขึ้นรถสองแถวสีเหลืองได้ที่ตลาดสายหยุดมรตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ซึ่งจะมีให้บริการวันละ 2 เที่ยวคือ 9.00 น. และ 15.00 น. ถ้าลงจากปางอุ๋งมาตัวเมืองแม่ฮ่องสอนจะมีเวลา 5.30 น. และ 11.00 น. ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง หรืออาจจะต่อรองราคาคิดเหมาเลยก็ได้
กรุงเทพ-ฮอด
 จากกรุงเทพ เดินทางผ่าน อยุธยา-นครสวรรค์-ตาก ถึง อ.ลี้ แยกซ้ายเข้าอำเภอ เดินทางต่อไปยังเส้นลี้-บ้านโฮ่ง ก่อนถึง อ.บ้านโฮ่ง สังเกตุป้ายนัดนึงนะครับ จะมีป้ายบอกให้เลี้ยวซ้ายไปดอยเต่า ให้เลี้ยวซ้ายจากนั้นก็วิ่งตามป้ายจนถึงฮอด ถึงสุดทางซึ่งจะเป็นสามแยกรูปตัว T ให้เลี้ยวซ้ายไปอีกประมาณ 200 เมตร จะเป็นวงเวียน เลี้ยวซ้ายที่วงเวียนก็จะเข้าสู่เส้นทาง ฮอด - แม่ฮ่องสอน ครับ
ฮอด-แม่ฮ่องสอน
จากฮอด วิ่งไปเรื่อย ๆ ตามทางสายหลัก ผ่าน อ.แม่สะเรียง, อ.แม่ลาน้อย, อ.ขุนยวม ก็จะถึงแม่ฮ่องสอนครับ เส้นทางจาก ฮอด-แม่ฮ่องสอน คดเคี้ยวขึ้นเขา 1,864 โค้ง ใครไม่ชำนาญการขับรถ ขึ้น-ลง เขา ผมไม่แนะนำให้ขับรถไป แต่หากต้องการขับไปจริง ๆ ก็เผื่อเวลาสำหรับการเดินทางอีก 20% และขับให้ช้าสักนิดเพื่อความปลอดภัยครับ
แม่ฮ่องสอน-ปางอุ๋ง
ออกจากเมืองแม่ฮ่องสอนไปตามเส้นทาง แม่ฮ่องสอน-ปางมะผ้า-ปาย ไปสัก 10 กม. จะมีป้ายบอกว่าเลี้ยวซ้ายไป บ้านรวมไทย น้ำตกผาเสื่อ พระตำหนักปางตอง ซึ่งอยู่บนเส้นทางเดียวกัน เดินทางขึ้นไปเรื่อย ๆ ผ่านน้ำตกผาเสื่อ ผ่านพระตำหนักปางตอง สังเกตทางแยกซ้ายมือ จะมีป้ายเล็ก ๆ เขียนบอกว่าไป "บ้านรวมไทย" ให้เลี้ยวซ้ายตรงไปเรื่อย ๆ จนถึงหมู่บ้านห้วยมะเขือส้ม ซึ่งจะมีทางแยกรูปตัว T เลี้ยวขวาตรงแยก ตรงไปเรื่อย ๆ ก็จะถึง บ้านรวมไทย หรือ ปางอุ๋ง ครับ เส้นทางจากแม่ฮ่องสอน -ปางอุ๋ง นอกจากเส้นทางจะคดโค้ง ขึ้นเขาชันจัด ๆ และถนนแคบมาก ๆ แล้ว ยังมีหมอกเป็นอุปสรรคอีกต่างหาก หากไม่ชำนาญเส้นทางควรเดินทางในช่วงกลางวันจะปลอดภัยกว่ามากครับ
กรณีที่ไม่ได้ขับรถไปเอง
นั่งรถทัวร์ กทม.-แม่ฮ่องสอน ให้ไปที่หน้าตลาดสายหยุด ถามหาคิวรถปางอุ๋ง จะมีรถสองแถว
ประจำทางขึ้นไปยังปางอุ๋ง (บ้านรวมไทย) เป็นสาย แม่ฮ่องสอน-ห้วยมะเขือส้ม
 เที่ยวไป 09.00 น. และ 14.00 น.
 เที่ยวกลับ 06.00 น. และ 11.00 น.
หรืออาจจะเหมารถจากหน้าตลาดสายหยุดไปเลยก็ได้อัตรค่าโดยสารประมาณ 600 บาท จากนั้นก็ไปที่หน้าตลาด ถามหาคิวรถปางอุ๋ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น